เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ตรวจเยี่ยมการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 66 และเตรียมความพร้อมกรณีสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ รวมถึงติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า โดยในส่วนของช่วงปีใหม่ 66 ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 65-4 ม.ค. 66 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่าน ทสภ. และท่าอากาศยานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ประมาณกว่า 2 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 3 แสนคน เพิ่มขึ้น 170% เมื่อเทียบกับปีใหม่ 65
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนเที่ยวบินรวมมีกว่า 12,000 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละกว่า 1,700 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับปีใหม่ 65 โดยเฉพาะ ทสภ. คาดว่าเที่ยวบินช่วงปีใหม่เติบโตกว่า 140% และผู้โดยสารเติบโต 260% จากปีใหม่ปี 65 ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูเก็ต คาดว่ามีเที่ยวบินช่วงปีใหม่เติบโต 90% และ 80% ส่วนผู้โดยสารคาดว่าเติบโต 130% และ 170% ตามลำดับ ทั้งนี้ได้ตั้งศูนย์ Single Command Center เพื่อบริหารจัดการความแออัดของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่านกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เตรียมเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 ทอท. คาดว่า ตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่จะเริ่มมีสายการบินทยอยแจ้งขอกลับมาทำการบินอีกครั้ง โดยเป็นการแจ้งล่วงหน้าก่อนวันหยุดปีใหม่ เพื่อเตรียมเที่ยวบินให้พร้อมช่วงต้นเดือน ม.ค. 66 ที่จะเปิดประเทศ เบื้องต้นจะเป็นการกลับมาทำการบินที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต ก่อน รวมทั้งเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่จะเข้ามาในช่วงเทศกาลตรุษจีน กลางเดือน-ปลายเดือน ม.ค. 66 ทั้งนี้คาดการณ์ตลอดทั้งเดือน ม.ค. 66 ผู้โดยสารจะเดินทางเฉลี่ยวันละประมาณ 310,000-340,000 คน จากปัจจุบันเดือน ธ.คคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น. 65 มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 275,000 คน และเป็นผู้โดยสารของ ทสภคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด. เฉลี่ยวันละประมาณ 140,000-170,000 คน จากปัจจุบันเดือน ธ.ค. 65 มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 133,000 คน
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า คาดการณ์ว่าตลอดปี 66 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานของ ทอท. ประมาณ 7-10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มี 20.5 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ได้กำชับสนามบินให้เตรียมการเรื่องการให้บริการของผู้ประกอบการภาคพื้น (ground handling) ให้พร้อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความล่าช้า หรือความไม่พร้อมในการให้บริการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจีนในทุกด้าน สำหรับมาตรการในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนนั้น กระทรวงคมนาคม เตรียมหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อกำหนดมาตรการทางสาธารณสุขในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนต่อไป
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ขณะนี้ปัญหาต่างๆ ภายใน ทสภ. เริ่มคลี่คลายลง โดยขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองมีความรวดเร็วมากขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 4 นาที นับตั้งแต่ผู้โดยสารเดินเข้าสู่พื้นที่รอคอยจนถึงการลงตรา ส่วนช่วงเวลาคับคั่งที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก จะใช้เวลารอคิวตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ยคนละ 15 นาที ขณะที่การให้บริการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระ ของผู้ให้บริการทั้ง 2 รายคือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด พบว่า ปัจจุบันค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าฯ จากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที ทั้งนี้ ระยะเวลาในการลำเลียงกระเป๋าฯ แต่ละเที่ยวบิน ขึ้นอยู่กับระยะทางของหลุมจอดอากาศยานกับจุดขนถ่ายสัมภาระ
“ที่ผ่านมาพบว่า ปัญหาความล่าช้าของกระเป๋าฯ ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเที่ยวบินล่าช้า (ดีเลย์) รวมทั้งการขาดบุคลากร และอุปกรณ์ในการให้บริการภาคพื้น เนื่องจากช่วงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ประกอบการประสบปัญหาการขาดแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งผมได้สั่งการให้ผู้ให้บริการภาคพื้น เร่งจัดสรรกำลังคนมาบริหารจัดการสัมภาระผู้โดยสารเป็นอันดับแรก โดยต้องมีบุคลากรให้เพียงพอ และสอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบิน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการรับกระเป๋าฯ ทั้งในเที่ยวบินปกติ และกรณีที่มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น” รมว.คมนาคม กล่าวและว่า ส่วนการรอคิวใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะนั้น ได้เปิดช่องทางแท็กซี่เพิ่ม เพื่อให้รถแท็กซี่สามารถเข้ามารับผู้ใช้บริการได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้โดยสารลดระยะเวลาการรอคิว เหลือเพียงประมาณ 10 นาทีต่อคน.